บรูโน แฟร์นันด์ส กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าบุกมาถล่ม แอธเลติก บิลเบา 3-0 ได้ คือสกอร์ที่เกินคาด แต่ยังเสียดายที่ครึ่งหลังทีมไม่ได้ยิงประตูเพิ่ม หลังจบเกมยูโรป้าลีกรอบตัดเชือกเลกแรก

เกมนี้ แมนยูฯ ขึ้นนำ 1-0 จาก คาเซมิโร นาทีที่ 30 จากนั้น แอธเลติก บิลเบา เหลือ 10 คน เมื่อ ดาเนียล บิเบียน โดนใบแดงไล่ออก นาทีที่ 35 ก่อนที่ บรูโน แฟร์นันด์ส จะเหมาอีก 2 ลูกจากจุดโทษ นาทีที่ 37 และยิงประตูปิดเกม นาทีที่ 45

ทำให้ แมนยูฯ กุมความได้เปรียบเหนือ แอธเลติก บิลเบา มีโอกาสสูงที่จะเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก เพื่อลุ้นแชมป์สุดท้ายในฤดูกาลนี้ และลุ้นคว้าโควตาไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า โดยจะกลับมาเล่นเลก 2 ในบ้าน วันที่ 8 พฤษภาคม

ขณะที่ บรูโน แฟร์นันด์ส ก็เพิ่มสถิติส่วนตัว ยิงไปแล้ว 27 ประตู ขึ้นมาเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาล อันดับ 3 ของศึกยูโรปาลีก เท่ากับ โรเมลู ลูกากู อดีตศูนย์หน้าแมนยูฯ โดยเป็นรองแค่ 2 คน ดังนี้

ดาวยิงสูงสุดตลอดกาล ยูโรปาลีก
34 ประตู - ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง

30 ประตู - ราดาเมล ฟัลเกา

27 ประตู - โรเมลู ลูกากู, บรูโน แฟร์นันด์ส

หลังจบเกม บรูโน แฟร์นันด์ส พูดถึงชัยชนะที่เกินคาดของ แมนยูฯ เหนือ แอธเลติก บิลเบา และสถิติการทำประตูในยูโร

ปาลีกว่า "คุณไม่สามารถคาดเดาผลการแข่งขันแบบนั้นได้เลย บิลเบา เป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก บรรยากาศก็สุดเหวี่ยง"

"ผลลัพธ์สำหรับเรามันเหลือเชื่อมาก เราควรจะเร่งเกมมากกว่านี้อีกหน่อยในครึ่งหลัง แต่เราควบคุมเกมได้ และนั่นคือเรื่องดี"

"ผมรู้ว่าผมยิงได้ประมาณ 30 ประตู แต่ไม่รู้จำนวนที่แน่ชัด มันเป็นส่วนสำคัญในเกมของผม และผมต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ สโมสรซื้อตัวผมมา เพราะผมยิงได้ 32 ประตูใน 1 ฤดูกาล"